[SF] Junseung # สร้อยคู่... - [SF] Junseung # สร้อยคู่... นิยาย [SF] Junseung # สร้อยคู่... : Dek-D.com - Writer

    [SF] Junseung # สร้อยคู่...

    เรื่องนี้แต่งขึ้นมาเฉยๆ ไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน^ ^

    ผู้เข้าชมรวม

    1,345

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    1.34K

    ความคิดเห็น


    20

    คนติดตาม


    9
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  16 มี.ค. 59 / 02:04 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      [SF]    Junseung  # สร้อยคู่...



       

      สร้อยคู่...ใครมันจะไปรู้ความหมาย....นอกจาก
       
       
      ...คนสองคน...
       
      “อะ”   ผมรู้สึกถึงความเย็นของโลหะบางอย่างที่สัมผัสถูกแขนขวาผม
      สิ่งที่ผมเห็นอยู่ในมือเรียวของเมมเบอร์ร่วมวง...
       
       
      ...จุนฮยอง...
       
       
      เค้ายื่นวัตถุสี่เหลี่ยมๆมาให้ผม มันคือไรว่ะ?  ความคิดแรกที่ผมคิด ไอห้อยมันจะแกล้งไรผมอีกเนี่ย -*-
       
      “อะไร? ” ผมหันไปถามแต่ยังไม่ไว้ใจที่จะยื่นมือไปรับ
      “รับไป!” ไอห้อยมันทำตาขวางมองผมเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ ผมเลยจำเป็นต้องแบมือรับของในมือมา
       
       
      สิ่งที่เห็น....ทำให้ผมช็อคค้างไปอยู่นาน  ทั้งตื่นเต้น ดีใจ งง สับสน ...
       
       
       
       
       
      มันคือ...สร้อย... สร้อยที่ก่อนหน้านี้ผมเห็นจุนฮยองใส่ออกงานบ้าง อยู่ที่ห้องบ้าง ตอนนั้นผมก็รู้ว่ามันคือสร้อยคู่ ผมก็ลองถามไปว่าแล้วคู่มันอยู่ไหนหละ เค้าก็บอกว่า ‘อีกเส้นมันกำลังหาคู่มันอยู่’  แล้วเค้าก็เดินจากไป
       
      จนวันนี้มันผ่านมา 3 เดือน อีกเส้นหนึ่งที่เค้าบอกมันอยู่ในมือผม...
       
       
       
      เค้าต้องการจะสื่ออะไร?
       
       
       จะฝากผมไปให้ใครหรือเปล่า?
       
       
      หรือว่า.........
       
       
      ผมไม่อยากเข้าข้างตัวเองเลยครับ อย่างจุนฮยองนะหรอจะเอาสร้อยอีกเส้นมาให้ผม...เป็นไปไม่ได้!
       
      “อ๋อ...สร้อยคู่กับสร้อยนาย...แล้ว...จะเอาไปให้ใครหละ เดี๋ยวชั้นเอาไปให้...” ผมไม่กล้าเงยหน้ามามองจุนฮยอง เลยแสร้งก้มมองสร้อย พลิกไปมาแก้เขิน กลบเกลื่อนความเจ็บปวดที่ผมกลัวว่าจะแสดงออกมาผ่านสายตา
       
      ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเจ็บปวด  ทั้งๆที่ทุกอย่าง...ผมคิดเองทั้งนั้น
       
       
       
      “...” เค้าเงียบ ผมเลยพยายามกลบเกลื่อนทุกๆความรู้สึก
      มันง่ายซะที่ไหนหละ ก็ผมหนะโกหกไม่เก่งเอาซะเลย ได้แต่ภาวนาให้เค้าไม่สนใจ
      แต่ผมคิดผิด! ดวงตาคมจ้องมองผมอย่างเอาเรื่อง...นี้ผมทำอะไรผิดหรอครับ...
      “ชั้น-ให้-นาย” เค้าเอ่ยประโยคที่ส่งผลให้อุณหภูมิที่หน้าผมพุ่งขึ้นสูงช้าๆ ชัดๆ ทีละคำ   จนผมต้องก้มมองปลายเท้า มองสร้อย หลบสายตากันยกใหญ่
       
       
      ยังไม่ทันที่ผมจะได้ถามว่าให้ทำไม? จู่ๆ เค้าก็เดินเข้าครัวไป ทิ่งให้ผมนั่งเขินอยู่คนเดียวเงียบๆ และเย็นวันนั้น...ผมกินอะไรไม่ลงเลย มันอิ่มแบบไม่รู้เหมือนกันว่าอิ่มเพราะอะไร คงอิ่ม...เพราะใจมั่ง...^^
       
      นอกจากจะกินไรไม่ลงแล้ว ผมว่าเมื่อคืนผมนอนไม่หลับนะ พลิกตัวมาก็เจอกับไอตัวต้นเหตุ ที่หลับสบายจนปากห้อย
      เพราะนายคนเดียวเลยไอห้อย เพราะนาย ... ผมหละอยากถามเค้าจัง ว่าทำไมต้องให้สร้อยเส้นนี้กับผม เค้าต้องการจะสื่ออะไร?  ผมไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองนะ แล้วนอกจากความหมายที่ผมคิด...มันยังมีความหมายอื่นอีกหรอ...
       
      แต่ผมก็เลือกที่จะเก็บสร้อยเส้นนั้นไว้ใต้หมอน แม้ว่าผมกับเค้าจะมีของที่ใช่ร่วมกัน หรือคู่กันอยู่บ่อย มันเป็นเพราะเหล่าแฟนคลับเค้าให้เรามาบ้าง แต่สร้อยเส้นนี้...เค้าซื้อมาให้ผม...-///-
       
      “ฮยอนซึง!” เสียงเข้มดังขึ้นข้างหลังผม ขณะที่ผมกำลังอ่านการ์ตูนอยู่ ผมจำเสียงเค้าได้ดี 
       
       
      จุนฮยอง
       
       
      “ว่าไง” ผมยังไม่ยอมละสายตาออกจากหนังสือการ์ตูน แต่สุดท้ายก็ต้องยอมมองหน้าเค้าจนได้เมื่อ...
      “เฮ้ย!!” จุนฮยองหยิบหนังสือผมลงไปพับเก็บไว้ข้างตัวผม แล้วนั่งลงบนพื้นข้างๆผม
      “สร้อยอยู่ไหน?”
      “สร้อย? สร้อยอะไรของนาย” 
      “ทำไมไม่ใส่” ดุอีกแล้ว เค้าโกรธไรผมแต่เช้า แล้วดูตอบได้ตรงคำถามมาก - -*
      “...” แล้วจะให้ชั้นใส่ทำไม? ผมได้แค่ถามเค้าในใจ
      “สร้อยอยู่ไหน” คำถามเดิมมาอีกครั้ง ผมจึงบอกไปว่าอยู่ใต้หมอน แล้วเค้าก็ฟึดฟัดเดินเข้าห้องนอนไป
       
      ผมหละกลัวจริงๆ เวลาเค้าหงุดหงิดทีไร เดาอารมณ์ยากชะมัด แล้วตอนนี้คนอื่นๆก็ไม่อยู่ที่ห้องสักคน เค้าจะฆ่าผมไหมครับT^T
       
      ผมเลิกสนใจแล้วหันมาอ่านการ์ตูนต่อ
      “อะ” อีกครั้งที่สัมผัสเย็นๆจากสร้อยโลหะเส้นเดิมโดนตัวผม
       
       
       
       
      แต่คราวนี้ความเย็นของมันอยู่ที่บริเวณคอ และหน้าอก
       
       
       
       
      จุนฮยองใส่สร้อยให้ผม...
       
       
      อีกครั้งที่หน้าผมแดงขึ้นมา และแดงมากขึ้นไปอีกเมื่อเค้าขยับปากหนาใกล้ใบหูของผม
      “ใส่ติดตัวไว้...ฉันให้นาย” และเป็นอีกครั้งที่ผมจะถาม แต่เค้าก็เดินหายไปอีกแล้ว
       
      สุดท้ายผมก็ไม่รู้สักทีว่าเค้าให้ผมทำไม?
       
      “ดูจุน”
      “ว่าไงฮยอนซึง”
      “สร้อยคู่มีไว้ทำไมหรอ”
      “เอ๊า! ถามแปลกๆ ก็ไว้แสดงให้ใครต่อใครรู้ไง ว่าเรากับเค้าเป็นไรกัน”
       
      ไม่ใช่ผมไม่รู้นะครับ แต่คุณเคยไหม? ของบางอย่าง คำบางคำเราก็รู้ความหมายของมันตั้งแต่แรก  แต่ถ้าเราโดนใช้ของเหล่านั่นจากคนที่เรารัก มันทำให้เราโง่ขนาดทีไม่กล้าตีความหมายออกมา ยิ่งเป็นรักข้างเดียวด้วยหละก็ ยิ่งไม่กล้าคิดเข้าไปใหญ่ เพราะกลัว...กลัวว่าสิ่งที่เราคิดนั้นแหละ...
       
       
       
      กลัว...
       
       
       
       
       
      ...คิดไปเอง...
       
       
       
      จนวันหนึ่งเป็นวันหยุดในช่วงที่พวกเรางานยุ่งกันมากๆ ไม่ค่อยได้พักผ่อน ได้พบปะกันเท่าไร ช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ผมกับจุนฮยองค่อนข้างห่างกัน
       
      “ดูจุนอา จุนฮยองไปไหนอ่า” เป็นโยซอบที่ถามหลีดเดอร์
      “ไม่รู้” คำตอบเดียวของหลีดเดอร์ที่ง่วงนอน
       
      คืนนั้น คืนที่คนนอนเตียงข้างๆผมเค้ายังไม่กลับมา ตอนนี้มันก็จะตี2แล้วนะ เป็นไรหรือเปล่านะ ผมนอนพลิกตัวไปมากับความคิดที่ฟุ้งซ่านขึ้นเรื่อยๆ
       
      แอ๊ดดดดดดดด
       
      กลับมาแล้ว คนที่ผมรอ คนที่ผมเป็นห่วงเค้ากลับมาแล้วครับ ^ ^
      หลังจากที่เค้าอาบน้ำเสร็จก็มานอนที่เค้า แต่ผมก็แสร้งทำเป็นหลับ เค้าไม่รู้หรอกว่าในห้องที่เงียบสงบที่เหมือนทุกๆคนจะเข้าสู่ห้วงนิททาไปแล้ว...มีคนๆหนึ่งรอเค้าทั้งคืนทั้งๆที่เค้าก็ไม่รู้
       
       
      “เฮ้ออออ มีความสุขจัง” น้ำเสียงดูอ่อนโยน มีความสุขนั้น ผมหละอยากลุกมาถามนักไปมีความสุขที่ไหนมา ไม่รู้เลยนะว่าคนรอมันทุกข์ขนาดไหนหนะห๊า ไอเหม่ง!! (เค้าใช้ให้รอรึก็เปล่านี่ ฮยอนซึง)
       
       
      เช้าแห่งการพักผ่อนของพวกเราก็มาถึง เช้าที่ผมสมควรจะมีความสุขกับวันหยุดพักผ่อน เช้าที่ผมควรใช้ชีวิตแบบคนปกติสักวันก่อนจะต้องทำงานต่อ
       
       
       
       
      แต่แล้วความเจ็บปวด...
       
       
      ความทรมาน...
       
       
      มันกลับทำให้ผมแทบล้มทั้งยืน...
       
       
       
      ภาพในจอ TV ที่โยซอบกับดูจุนนั่งดูอยู่ ข่าวบรรเทิงที่พวกเราติดตาม...
       
       
      ภาพของคนที่ผมคุ้นเคย
       
       
       
      ภาพของคนที่ผมรู้จักดี
       
       
       
      เสื้อตัวที่คุ้นตา ที่ผมเคยเห็น
       
       
       
      ...เสื้อตัวเมื่อวาน...
       
       
       
      ภาพ...ของจุนฮยอง...
       
       
      ภาพของจุนฮยองเดินจับมือกับผู้หญิงคนหนึ่ง...
       
       
      ผมพยายามกลืนไอก้อนความเจ็บที่มันจุกที่หน้าอก หูผมไม่รับรู้ ไม่ได้ยินเสียงรายงานข่าว
      ไม่สิ ไม่จำเป็นต้องได้ยิน...ผมก็เข้าใจทุกอย่าง...ผมเข้าใจมันแล้ว 
       
       
      คำบรรยายใดๆไม่ต้องมี 
       
       
      ภาพทุกอย่าง...มันบอกผมได้ดี
       
      มันย้ำให้ผมรู้แล้วหละ ว่าเค้าสองคน...
       
      เป็นอะไรกัน...
       
      ความอุ่นบางอย่างมันสัมผัสโดนแก้มซ้ายของผม
       
      ...น้ำตา...
       
      มันไหลมาตอนไหนนะ รู้ตัวอีกทีก็มือที่มากอดไหลผม ผมก้มหน้าลงทันที ไม่รู้ว่าใครแต่ไม่อยากให้ใครเห็นน้ำตา แต่แล้วผมก็รู้ว่าคนที่กอดคอผมอยู่ตอนนี้
       
      จุนฮยอง...
       
       
      ผมจำได้ น้ำหอมอ่อนๆ ที่ผมจำได้เอง ทั้งๆที่ไม่ได้ใส่ใจจำ แต่ใจมันจำเอง ก็เหมือนกับที่ผมไม่รู้ตัวว่าผม...รักเค้าตอนไหน รู้อีกที เค้าก็คือคนที่ผมแคร์มากที่สุด...
       
       
      “ดูไรกันหวะ” เค้าถามขึ้น
      “แหม จุนฮยองอา  เมื่อคืนก็นึกว่าไปไหน ที่แท้...”
      “หยุดเลยโย ไม่ต้องพูดเลย” เหมือนคนข้างตัวผมจะเขินหนัก
      “งานเข้าหละซิ!” เค้าพูดอีกครั้งแต่ยังกอดคอผมอยู่ ไม่ไหวแล้ว ผมก็คนนะ ถึงใครจะหาว่าผมเป็นคนเข้าใจอะไรยาก 
      จะว่าผม 4 มิติ แต่ความหน่วงที่หัวใจ มันไม่ต้องใช้คำบรรยาย คำอธิบายจากใครทั้งนั้น ผมเจ็บ! เกินกว่าที่จะอยู่รับรู้เรี่องของเค้ากับ...
       
       
       
       
       
      รู้ตัวอีกที ผมก็ขึ้นมาอยู่บนดาดฟ้าของตึกแล้ว สองขามันอ่อนแรง ถ้าไม่มีประตูที่ผมเพิ่งปิดลง ผมคงลงไปกองกับพื้นทันที
      น้ำตาที่พยายามกลั้นไว ไหลลงมา ไม่มีเสียงสะอื้นใดๆทั้งสิ้นออกมา มีแค่น้ำตา ความผิดหวัง   เสียใจ
       
       
      ...อกหักหรอฮยอนซึง...
       
       
      นี่...ผมอกหักตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยหรอเนี่ย...
       
       
      เหอะ สมเพษตัวเองชะมัด!!
       
       
      ผมก้มลงหยิบสร้อยที่เค้าให้อีกครั้ง หลังจากที่น้ำตาหยุดไหลแล้ว
       
       
       
      จุนฮยอง...นายให้สร้อยเส้นนี้กับชั้นทำไม! ทำไมไม่เอาไปให้เค้า นายทำให้ชั้นคิด! ทำให้ชั้นมีความหวัง! แล้วสุดท้ายก็เป็นนายที่ทำให้ชั้นเจ็บ!
       
      ชั้นอยากถามนาย
       
      ว่านายทำแบบนี้ทำไม! ต้องการอะไร! ทำกับชั้นแบบนี้ทำไม! คนอื่นเยอะแยะทำไมต้องเป็นชั้นที่นายเข้ามาทำดีด้วย! ทำไม! ทำไม! ทำไมจุนฮยอง! ทำไม!!!!!
       
      อีกครั้งที่น้ำตาไหลออกมา คราวนี้ผมสะอื่นหนัก หนักจนผมหายใจไม่ทัน ผมรู้ถ้าขืนผมยังร้องไห้อยู่แบบนี้ ผมจะต้องหายใจไม่ออกแน่ๆ แต่ผมหยุดไม่ได้ ผมหยุดร้องไห้ไม่ได้....
      ..
      ..
      ..
      ..
      .
      .
      .
      .
      “ฮยอนซึง ฮยอนซึง” ใครสักคนปลุกผม ผมพยายามปรับสายตา จนภาพชัดขึ้นมา...จุนฮยอง...
       
       
       ผมหลับไป!
      ...หรือเรื่องทั้งหมดมันคือความฝัน...
       
       
       
      ผมมองดูรอบๆตัวให้ชัดเจน ว่านี่คือฝัน...หรือความจริง
       
       
      ผมอยู่บนดาดฟ้า...
       
       
      ...ทุกอย่างคือความจริง...
       
      ผมรู้สึกปวดตามาก...ทำไม...ทำไมมันถึงไม่ใช่ความฝัน...ความปวดหนึบที่ใจกลับมาอีกครั้ง
       
       
       
      “มาทำอะไรตรงนี้  รู้ไหมว่ามัน6โมงเย็นแล้วนะ ทุกคนรอนายอยู่ ไปเถอะ   ไปกินข้าวกันนะ” รอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนมันถูกส่งมาให้ผมอีกครั้ง...นายอย่าทำแบบนี้ได้ไหม? จุนฮยอง 
      ยิ่งนายอ่อนโยนกับชั้นมากขนาดไหน ชั้นยิ่งเจ็บ ที่รู้ว่านายไม่ได้คิดอะไรกับชั้น
      ยิ่งนายทำดีกับชั้นมากขนาดไหน ชั้นยิ่งเกลียดตัวเองที่ดันเผลอใจไปรักนาย รัก...คนที่ไม่ได้คิดอะไร รัก...เพื่อนตัวเอง...
       
       
      มือหนากุมมือผมให้ลุกขึ้น ผมมองมือนั้นแล้วอยากจะสบัดออก! ภาพที่ผมเห็นใน TV มันทำร้ายผมอีกครั้ง แต่ถ้าผมสบัดมือนั้นออก ผมจะทำร้ายจิตใจเค้าผมมากเกินไป เค้าไม่ได้ผิดอะไร เ
       
       
       
      ค้าไม่ผิดเลยที่เค้าจะเลือกผู้หญิงคนนั้น
       
       
       
       
       ไม่ผิดที่เค้าไม่เลือกผม
       
       
       
       
      ...ที่เป็นผู้ชาย...
       
       
       
       
      “จุนฮยอง...” ผมตัดสินใจรั้งมือหนานั้นไว้ เค้าก็หันกลับมามองผมด้วยรอยยิ้มเช่นเดิม...
      “ชั้น...คืนสร้อยให้นาย...” ผมค่อยๆเอาสร้อยจากอีกมือส่งคืนเค้าไป พร้อมๆกับหัวใจที่แตกสลายลงเรื่อยๆ ตอนนี้สร้อยเส้นนี้มันสมควรที่จะไปอยู่บนอีกคนที่ควรค่าแล้วหละ...ไม่ใช่ชั้น...จุนฮยอง...
       
      “ทำไมฮยอนซึง”
       
      “นาย...เอาไปให้เค้าเถอะ”
       
      “...”
       
      “เอาไปให้...ผู้หญิงของนาย...” ยิ่งพูดถึงน้ำตามันก็ยิ่งจะไหลลงมา
      “ชั้นให้นายแล้ว...จะไปให้คนอื่นได้ไง”
       
       
       
      คนอื่น...นายเรียกเค้าว่าคนอื่น...หมายความว่าไงจุนฮยอง?
       
       
       
      “แล้ว...สร้อยเส้นนี้มันมีความหมายอะไรหละ...ในเมื่อมันเป็นสร้อยคู่ มันก็สมควรที่จะอยู่กับคู่นายไม่ใช่หรอจุนฮยอง”
      ในที่สุดผมก็ได้ถามคำถามที่ผมอยากรู้มาตลอด   แค่คำว่า ’คนอื่น’ ผมยอมรับว่าผมยังคงหวังอยู่ว่าคำพูดต่อมาจากเค้ามันจะทำให้ผมยิ้มได้...ไม่ผิดใช่ไหม? ที่ผมจะหวังลมๆแล้งๆอยู่คนเดียว
       
       
       
       
      “สร้อยเส้นนี้นะหรอ?” เค้าก้มลงดูสร้อยในมืออีกครั้ง แล้วก็สวมให้ผมเหมือนครั้งแรกที่เค้าสวมให้
       
       
       
       
       
       
      ...ปากหนากระซิบหูผมอีกครั้ง...
       
       
       
       
       
       
       
      “มันเป็นสร้อย...” ใจผมมันเต้นไม่เป็นจังหวะเลยครับ
       
       
       
       
       
       
       
       
      “สร้อยเพื่อนรักไง”
       
       
       
       
       
       
       
       
       
      เพื่อน!!!
       
      เพื่อน...รัก...
       
      อีกครั้งที่ความเสียใจมันถาโถมเข้ามา  มันหนักกว่าครั้งแรก คงเพราะแผลในตอนแรกมันยังไม่สมาน แผลใหม่ที่ผมสร้างขึ้นมาเองมันเลยลึกกว่าเดิม
       
       
      หยดน้ำตาที่ผมคิดว่ามันคงหมดไปแล้วไหลลงมาอีกครั้ง ดีที่เค้าอยู่ด้านหลัง ไม่เห็น แต่ผมจะปิดได้หรอ
      ผมรีบก้าวลงมาจากดาดฟ้าก่อน จนเกือบวิ่งซะด้วยซ้ำ พอถึงห้อง ห้องน้ำ...คือที่ที่ดีที่สุดที่จะอยู่คนเดียว
       
       
       
      ความหมายที่ผมคิดเอง ถ้าผมถามเค้าไปตั้งแต่แรก...ผมคงไม่เจ็บขนาดนี้...สิ่งที่ผมกลัวที่สุด สุดท้ายผมก็ทำให้มันเกิดขึ้น
       
       
       
       
      .....ทุกๆอย่างที่ผ่านมา.....
       
       
       
      ....สุดท้ายแล้ว.....
       
       
       
      .....ผมก็คิดไปเองคนเดียว....
       
       
       
       
      ……..THE END…….



      จิ้มๆ>>> ตอนจบ 
       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×